(30 มีนาคม 2562) นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่ 2 มาเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการเสริมสร้างความพร้อมแก่ท้องถิ่น หลักสูตร “กระบวนการเสริมสร้างผู้นำนักประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม” ครั้งที่ 5/2562 ที่โรงแรมลักษวรรณ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เพื่อเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ตลอดจนบทบาทหน้าที่และอำนาจของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อสร้างจิตสำนึกและกระตุ้นให้ผู้นำท้องถิ่นสนใจมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างถูกต้องตามครรลองระบอบประชาธิปไตย เพื่อให้เกิดความร่วมมือและการสร้างเครือข่ายร่วมกัน โดยมีนายกและสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ปกครองท้องที่ ศิลปินพื้นบ้าน ผู้บริหารสถานศึกษาและครูสอนสังคมศึกษา ทนายความ ครู บุคลากร กศน. อสม. อปพร. ยุวชนประชาธิปไตย และผู้ที่เคยเข้ารับการศึกษาในโรงเรียนกองทุนการศึกษา รวม 130 คนเข้าร่วมอบรม

รองประธาน สนช.คนที่ 2 นายพีระศักดิ์ พอจิต กล่าวเปิดและแสดงปาฐกถาว่า รู้สึกเป็นห่วงบ้านเมืองหลังการเลือกตั้ง ซึ่งคะแนนสองฝ่ายออกมาก้ำกึ่งกัน ฝ่ายหนึ่งพยายามเรียกตนเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยแล้วก็โจมตีอีกฝ่ายหนึ่งว่าเป็นเผด็จการ ทั้งๆ ที่เข้าไปในคูหากาบัตรเลือกตั้งแบบเดียวกัน และเท่าที่ทราบจากผู้หลักผู้ใหญ่ในเบื้องลึกว่าขณะนี้กำลังมีความพยายามที่จะแยกประชาชนคนไทยออกเป็นฝักเป็นฝ่าย โดยใช้การเลือกตั้งเป็นเครื่องมือ ด้วยวาทกรรมกล่าวหาว่าเป็นการเลือกตั้งสกปรก และที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือการพยายามดึงประเทศมหาอำนาจเข้ามาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในประเทศไทย โดยมีอเมริกากับยุโรป อยู่ฝ่ายหนึ่ง จีน อินเดีย และรัสเซีย อยู่อีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งถ้าทำได้เช่นนั้นจริง ประเทศไทยก็จะถูกทำลายเหมือนประเทศในตะวันออกกลางและอเมริกาใต้ที่กำลังมีปัญหาอยู่ในขณะนี้ จึงขอให้ผู้ที่เข้าร่วมอบรมศึกษาในหลักสูตรนี้ที่ประกอบไปด้วยหลายภาคส่วนในจังหวัดเชียงรายและพะเยา รู้เท่าทันและช่วยกันรักษาบ้านเมืองไทย อย่าให้ใครมาบ่อนทำลายเอาไว้ให้ได้
นายพีระศักดิ์ยังได้เล่าถึงเหตุการณ์ก่อนการยึดอำนาจ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ด้วยว่า ขณะนั้นฝ่าย กปปส.กับฝ่าย นปช.เสื้อแดง กำลังเผชิญหน้าจะใช้ความรุนแรงกันอยู่แล้ว ขณะที่รัฐบาลก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้ เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยุบสภาผู้แทนราษฎร (ถูกต่อต้านครั้งใหญ่ 204 วัน จากการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอยตอนตี 4) แล้วเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้พ้นจากการรักษาการ (กรณีย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี ไม่เป็นธรรม) ไปเสียอีก ทำให้นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นมารักษาการนายกรัฐมนตรี แต่ก็ไม่มีอำนาจทำอะไร ไม่สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในประเทศขณะนั้นที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ได้ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ นำโดยผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงได้เชิญ 5 ฝ่ายมาประชุมที่สโมสรกองทัพบก (ประชุม 2 ครั้ง 20 และ 22 พฤษภาคม 2557) เพื่อหาทางออก คือฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายคู่ขัดแย้ง กปปส.และ นปช.กับ ส.ว.และ กกต.ปรากฎว่าหาทางออกไม่ได้ (โดยนายชัยสิริ นิติเกษม รัฐมนตรียุติธรรม หัวหน้าคณะฝ่ายรัฐบาล ผู้เข้าร่วมประชุมในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557) ยืนยันว่ารัฐบาลและคณะรัฐมนตรีจะไม่ลาออก กกต.ก็บอกว่าสถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก จึงได้ยึดอำนาจ ควบคุมตัวทุกฝ่าย ยกเว้น ส.ว.และ กกต.ไปยังที่ต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาบ้านเมืองจนสงบมาถึงทุกวันนี้ แล้วก็จัดให้มีการเลือกตั้ง แต่ยังมีผู้ไม่หวังดีกำลังจะพาบ้านเมืองกลับไปสู่ความขัดแย้งกันอีก จึงอยากให้ประชาชนเข้าใจ ไม่ตกเป็นเครื่องมือของผู้ไม่หวังดีทำร้ายประเทศอีกครั้งหนึ่ง