นายอนุรักษ์ วิจิตรพันธ์ ทนายความและผู้ประสานงาน พาผู้เสียหายกว่า 20 ราย ถูกหลอกให้ลงทุนแชร์น้ำมัน แชร์เงินกู้ระหว่างประเทศและแชร์ผักสด ได้รับความเสียหายรวมแล้วกว่า 30 ล้านบาท เข้าร้องดีเอสไอ เพื่อให้รับเรื่องไว้เป็นคดีพิเศษ โดยมี พ.ต.ต.วรนันท์ ศรีล้ำ รองโฆษกดีเอสไอ และ ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล ผอ.กองบริหารคดีพิเศษ รับเรื่องไว้
นางศรีวรรณ แย้มพวง หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนถูกหลอกไปกว่า 15 ล้านบาท โดยตนได้รับการชักชวนจากเพื่อนคนสนิทให้ร่วมลงทุนหุ้นน้ำมัน เมื่อปี พ.ศ.2557 โดยมีนางสาวประภพภร ฟองคำ เป็นแม่ทีม และเสนอผลตอบแทน มีรายได้ขึ้นลงอยู่ในอัตราราคาน้ำมันโลก และอ้างว่ามีอดีต ส.ส.จังหวัดพะเยา 2 คน ถือหุ้นใหญ่อยู่ ตนจึงหลงเชื่อและได้ลงทุนไปครั้งแรกเป็นเงินจำนวน 1 แสนบาท จากนั้นเดือนต่อมาได้รับเงินปันผล 20,000 บาทเป็นค่าตอบแทน และได้ติดต่อกันมา 3 เดือน ตนจึงลงทุนเพิ่มอีก 200,000 บาท จากนั้นก็ได้รับเงินปันผลเพียง 2 เดือน หลังจากนั้นก็ไม่ได้รับอีกเลย ต่อมา นางสาวประภพภร ฟองคำ ได้ชักชวนให้ลงทุนหุ้นเงินกู้ระหว่างประเทศและหุ้นผักสด ตนหลงเชื่ออีกครั้ง ลงทุนเพิ่มไปอีก 900,000 บาท และเพิ่มเรื่อยๆ จนถึง 15 ล้านบาท จากนั้นปี พ.ศ.2559 ตนก็ไม่สามารติดต่อนางสาวประภพภร ฟองคำ ได้อีกเลย ตนและผู้เสียหายทั้งหมดจึงทำการแจ้งความนางสาวประภพภร ฟองคำ กับพวกอีก 5 คน ในฐานความผิดฉ้อโกงประชาชน ทางอัยการจึงสั่งฟ้อง และเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลได้มีคำสั่งให้ยกฟ้องจำเลยทั้งหมดในข้อหาฉ้อโกงประชาชน แต่นางสาวประภพภร ฟองคำ เพียงรายเดียวที่ต้องชำระเงิน 29 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ นางสาวประภพภร ฟองคำ ยังคงยังไม่ยอมชำระหนี้ แต่ทางตนเองพร้อมผู้เสียหายอื่นได้ยื่นอุทรณ์ไปแล้ว วันนี้จึงเดินทางมาขอความเป็นธรรมและอยากให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ เนื่องจากเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่
ร.ต.อ.ปิยะ กล่าวว่า ขั้นตอนต่อจากนี้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษจะรับเรื่องไว้ และหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะสอบปากคำข้อมูลจากผู้เสียหายเพื่อเสนอเรื่องผ่านกองบริหารคดีพิเศษว่าเข้าข่ายเงื่อนไขที่จะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่