ผู้ตรวจการเลือกตั้งเที่ยวนี้มีอำนาจมาก สามารถตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐได้ทุกระดับที่ดำเนินการเลือกตั้งและสั่งให้ปฏิบัติให้ถูกต้องได้
ผู้สมัครเหล่านี้ ผอ.สนง.กกต.ประจำจังหวัดเชียงราย จะจัดทำบัญชีรายชื่อเรียงตามตัวอักษร เสนอต่อคณะกรรมการคัดเลือกจังหวัดเชียงราย ซึ่งประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน อัยการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ประธานสภาทนายความจังหวัด ผู้แทนองค์กรเอกชน ผู้แทนสภาองค์กรชุมชนตำบลระดับจังหวัด ประธานหอการค้า ประธานสภาอุตสาหกรรม ประธานชมรมธนาคารจังหวัดคนใดคนหนึ่ง และ ผอ.สนง.กกต.ประจำจังหวัดเชียงราย เป็นกรรมการรวม 8 คน โดย ผอ.สนง.กกต.จะเสนอภายในวันที่ 27 มิถุนายน 2561 แล้วคณะกรรมการคัดเลือกจะดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครแต่ละรายให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 7 กรกฎาคม 2561 จากนั้นคณะกรรมการจะพิจารณาคัดเลือกผู้สมัครทั้งหมดให้เหลือ 16 คน โดยวิธีลงคะแนนลับภายในวันที่ 10 กรกฎาคม 2561 แล้ว ผอ.สนง.กกต.ประจำจังหวัดเชียงรายจะส่งบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก 16 คนนั้นไปให้เลขาธิการ กกต.รวบรวม ภายในวันที่ 15 กรกฎาคม 2561
เมื่อสำนักงาน กกต.ส่วนกลางได้รับบัญชีรายชื่อครบทุกจังหวัดแล้ว ก็จะเสนอบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกจากแต่ละจังหวัดๆ ละ 16 คน ต่อ กกต.พิจารณาคัดเลือกให้เหลือ 8 คน เป็นผู้ตรวจการเลือกตั้งจังหวัด แล้วประกาศให้ประชาชนทราบทางระบบไอทีและปิดประกาศที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด หากไม่มีผู้ใดร้องเรียนคัดค้านภายใน 15 วันนับแต่วันที่ กกต.ประกาศรายชื่อ กกต.ก็จะมีคำสั่งแต่งตั้งผู้ได้รับการคัดเลือกทั้ง 8 คน เป็นผู้ตรวจการเลือกตั้ง โดยขึ้นบัญชีรายชื่อไว้เป็นเวลา 5 ปี เมื่อมีการเลือกตั้ง ส.ส.หรือ ส.ว.เป็นการทั่วไปในแต่ละครั้ง กกต.ก็จะแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้งที่ขึ้นบัญชีไว้เป็นผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด โดยจังหวัดที่มีเขตเลือกตั้งไม่เกิน 5 เขต ก็มีผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด 5 คน จังหวัดที่มีเขตเลือกตั้ง 6-8 เขตเลือกตั้ง มีผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด 6 คน จังหวัดที่มีเขตเลือกตั้ง 9-11 เขตเลือกตั้ง มีผู้ตรวจฯ 7 คน และจังหวัดที่มีเขตเลือกตั้งตั้งแต่ 12 เขตเลือกตั้งขึ้นไป ก็มีผู้ตรวจฯ 8 คน ซึ่งจะมาจากจังหวัดที่ผู้ตรวจฯ นั้นมีภูมิลำเนาอยู่ 2 คน ที่เหลือมาจากการจับสลาก ผู้ที่ไม่ได้มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดนั้นแต่มีภูมิลำเนาอยู่ในกลุ่มจังหวัด เช่น เชียงรายและพะเยา อยู่ในกลุ่มจังหวัดที่ 9 ประกอบด้วยจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน แพร่ และน่าน โดยผู้ตรวจการเลือกตั้งฯ จะประชุมปรึกษาหารือ แลกเปลี่ยนข้อมูลกันเดือนละ 2 ครั้ง ค่าตอบแทนเดือนละ 50,000 บาท มีผู้ช่วยปฏิบัติงานได้ 1 คน เงินเดือน 15,000 บาท
สำหรับอำนาจและหน้าที่ของผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดเป็นไปตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยผู้ตรวจการเลือกตั้ง พ.ศ.2561 ข้อ 31 และ 32 ดังนี้
ข้อ 31 (1) ตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ของรัฐ และมีอำนาจแจ้งเตือนให้ปฏิบัติให้ถูกต้องได้ ถ้าไม่มีการดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง ให้รายงานให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกรรมการเลือกตั้งทราบโดยเร็ว
(2) ตรวจสอบการกระทำความผิดกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง หรือการกระทำใดที่จะเป็นเหตุทำให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
(3) เข้าไปในที่เลือกตั้ง หรือสถานที่นับคะแนนเลือกตั้ง
(4) ปฏิบัติงานอื่นตามระเบียบ คำสั่ง ประกาศ และมติของคณะกรรมการการเลือกตั้งและตามที่ได้รับมอบหมาย
ข้อ 32 เมื่อผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดพบการกระทำที่เป็นความผิดกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง หรือการกระทำหรืองดเว้นการกระทำใดอันอาจเป็นเหตุให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม หรือเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรือกรณีเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการเลือกตั้งหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องตามข้อ 31 (1) (2) หรือพบเห็นกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งหรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยผู้ใดกระทำผิดตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือกระทำการใดอันเป็นเหตุให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรมหรือเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ให้รายงานคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือกรรมการการเลือกตั้งทราบทันทีเพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป
เมื่อได้ดำเนินการตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้ผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดแจ้งให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทราบด้วย และให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพิจารณาเหตุ หากเห็นว่าเป็นกรณีตามข้อ 31 (1) หรือ (2) ให้ดำเนินการตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวนและการวินิจฉัยชี้ขาดต่อไป