
ขณะที่หลายกลุ่มที่ไปจดแจ้งขอเป็นพรรคการเมืองใหม่ต่อ กกต.พากันดัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นประธานที่ปรึกษาพรรคของตนเพื่อเรียกคะแนนและหลีกเลี่ยงคำครหา “นายกคนนอก” พรรคพลังปวงชนไทย (พปท.) พรรคใหม่ลำดับ 43 ที่ไปจดแจ้งเมื่อ 5 มีนาคม ก็มีรายงานข่าวว่า พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีต ผบ.ทบ.จะมานั่งเป็นประธานที่ปรึกษาพรรคให้ ตามมาด้วย พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สมัย “นายกทักษิณ” ส่วนหัวหน้าพรรคคนสำคัญ จะเปิดเผยภายหลังจากจดทะเบียนพรรคเป็นที่เรียบร้อย
เมื่อวันที่ 5 มีนาคมนี้ ที่สำนักงาน กกต.กทม. นายพันธุ์ศักดิ์ ซาบุ และนายธน-พัฒน์ โภคาเจริญเกียรติ ได้นำแกนนำผู้ก่อตั้งพรรค “พลังปวงชนไทย” กว่า 20 คน เข้ายื่นขอจดแจ้งเตรียมการจัดตั้งพรรคต่อ กกต.เป็นลำดับที่ 43 วันที่สองของกระบวนการยื่นขอจดแจ้งชื่อพรรคต่อจากวันที่ 2 มีนาคม วันแรก ซึ่งมีพรรคใหม่มาจดแจ้งชื่อถึง 42 พรรค
ภายหลังการยื่นขอจดเรียบร้อยแล้ว นายพันธุ์ศักดิ์ให้สัมภาษณ์ว่าพรรคพลังปวงชนไทยจะประกอบด้วยบุคคลหลากหลายอาชีพ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ รวมทั้งอดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย ตลอดจนพรรคอื่นๆ เพื่อให้เป็นพรรคทางเลือกใหม่ของคนรุ่นใหม่ เป็นพลังของคนหนุ่มสาวที่ฟังเสียงของประชาชนทุกสาขาอาชีพเป็นสำคัญ โดยพรรคจะส่งผู้สมัคร ส.ส.เขตครบทุกเขตทั้ง 350 เขตทั่วประเทศ ส่วนนายกรัฐมนตรีนั้น พรรคมีชื่อที่จะเสนออยู่แล้ว 3 คน เป็นคนที่มาจากระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่คนนอก เพราะเชื่อว่าคนที่มาจากระบอบประชาธิปไตยจะดีกว่าคนนอก สำหรับนโยบายพรรคจะเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อได้รับการรับรองและจดทะเบียนพรรคจาก กกต.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทางด้านจังหวัดเชียงราย “พลังปวงชนไทย” มีแกนนำคนสำคัญ คือนายก้องภพ วังสุนทร หรือ “ดร.ก้องภพ” หนุ่มใหญ่วัย 48 ปี จาก อ.พาน เจ้าของทฤษฎี “เศรษฐกิจฐานราก 4.0” ซึ่งจะได้รับการต่อยอดให้เป็นนโยบายหลักของพรรคต่อไป ดร.ก้องภพ จึงได้ถูกวางตัวให้เป็นรองหัวหน้าพรรคด้านเศรษฐกิจและสังคม ที่จะทำให้ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคนี้ โดยเฉพาะในเขตจังหวัดเชียงราย พะเยา และน่าน เข้มแข็ง มีโอกาสชนะการเลือกตั้งมากยิ่งขึ้น
สำหรับพรรคการเมืองที่ขอจดแจ้งแล้ว 55 พรรค (เมื่อวันที่ 9 มี.ค.61) ส่วนพรรคเดิมที่ขึ้นทะเบียนรับรองแล้วมี 69 พรรค ซึ่งจะเริ่มตรวจสอบรายชื่อสมาชิกพรรคได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้เป็นต้นไป