องค์กรอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพของโลก คัดเลือกเทศบาลนครเชียงรายให้เป็นเมืองยั่งยืนของไทย National Earth Hour Capital 2016 เข้าแข่งกับ 124 เมือง 21 ประเทศ
เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนนี้ ที่โรงแรมดุสิต ไอส์แลนด์ รีสอร์ท เชียงราย มีพิธีมอบรางวัลโครงการปลุกเมืองให้โลกเปลี่ยน ให้กับเทศบาลนครเชียงราย โดยนายกอร์ดอน ผู้จัดการฝ่ายอนุรักษ์องค์กร WWF กล่าวว่าเชียงรายเป็นเมืองที่สวยงามมาก มาเชียงรายครั้งแรกที่นี่ท้องฟ้าเป็นสีฟ้า จึงได้รับเลือกเป็น 1 ใน 125 เมือง จาก 21 ประเทศ ที่มุ่งมั่นในการรักษาภูมิอากาศไว้ ถือว่าเราได้ก้าวไปสู่ระดับโลก เมืองที่มีความสามารถในการลดพลังงาน ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นประโยชน์อย่างยั่งยืน ความสำเร็จของโครงการนี้จะทำให้เชียงรายเป็นเมืองระดับโลกที่สามารถรักษาภูมิอากาศไว้ได้ “เราชนะแล้ว” นายกอร์ดอนกล่าวในพิธีมอบรางวัล
นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย เปิดเผยว่า “ขณะนี้ทั่วโลกกำลังประสบปัญหาสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพภูมิอากาศของโลก โดยที่การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้น ส่วนใหญ่เกิดจากน้ำมือของมนุษย์ที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างสิ้นเปลืองและไม่คิดถึงผลกระทบที่จะเกิดตามมา ทั้งในส่วนของการบริโภค และการพัฒนาด้านต่างๆ เทศบาลนครเชียงรายได้เล็งเห็นถึงสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นจากสาเหตุปัจจัยดังกล่าว จึงได้ร่วมกับประชาชนในเขตเทศบาลฯ ดำเนินโครงการตลอดจนกิจกรรมต่างๆ ในการใช้และอนุรักษ์ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสร้างความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด”
องค์การกองทุนสัตว์ป่าสากล (World Wild Fund For Nature : WWF) สำนักงานประเทศไทย ได้จัดโครงการรณรงค์ “ปลุกเมืองให้โลกเปลี่ยน” (Earth Hour City Challenge) ซึ่งโครงการนี้มีแนวคิดในการค้นหาเมืองต่างๆ จากทั่วโลกในการพัฒนาเมืองที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ เพื่อนำมายกย่องเชิดชูและมอบรางวัลให้กับเมืองนั้นๆ ผ่านโครงการประกวดภายใต้โครงการดังกล่าวมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 และในปีนี้เน้นการค้นหาเมืองที่มีการปฏิบัติในการสร้างความมั่นคงด้านอาหาร น้ำ และพลังงาน ที่ช่วยบรรเทาผลกระทบและปรับตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในการที่จะนำมาเป็นตัวอย่างเพื่อนำเสนอและแบ่งปันความรู้ประสบการณ์ร่วมกันระหว่างเมืองต่างๆ ในโลกใบนี้ เทศบาลนครเชียงราย ภายใต้การบริหารของนายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ซึ่งมีนโยบายที่มุ่งเน้นการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เพื่อก้าวสู่การเป็นเมืองคาร์บอนต่ำ โดยมีการดำเนินโครงการและกิจกรรมต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม และมีผลงานเป็นตัวอย่างที่ดี (Good Pratice) แก่เมืองต่างๆ ได้ส่งผลงานการดำเนินงานสมัครเข้าร่วมโครงการ และล่าสุด เทศบาลนครเชียงรายได้ผ่านการคัดเลือกรอบสุดท้ายให้ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ เป็นตัวแทนประเทศไทย โดยทาง WWF-ประเทศไทย ได้นำรางวัลดังกล่าวมามอบให้กับเทศบาลนครเชียงราย พร้อมด้วยเมืองต่างๆ ที่ผ่านเข้ารอบมาศึกษาดูงานผลการดำเนินงานของเทศบาลฯ เพื่อนำไปเป็นต้นแบบในการปลุกเมืองให้โลกเปลี่ยน ตามโครงการของ WWF ต่อไป
นางสุรนิตย์ อ่องฬะ ปลัดเทศบาลนครเชียงราย กล่าวเสริมว่า “ความสำเร็จที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เพียงรางวัลและชื่อเสียงที่ได้รับเท่านั้น แต่เป็นการยกระดับการทำงานของหน่วยงานระดับท้องถิ่นที่สามารถสร้างผลงานในระดับโลก ทั้งนี้เพื่อสร้างการยอมรับในระดับสากล ในทำนองเดียวกัน เทศบาลนครเชียงรายจะได้รับการสนับสนุนจากนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญในการจัดทำระบบในการทำงาน ได้รับโอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับเมืองอื่นๆ ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก โดยที่เมืองแต่ละเมืองที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับการแนะนำรวมถึงข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อไปในอนาคต และที่สำคัญนั้นจะเป็นการพัฒนาขีดความสามารถและกระบวนการทำงานร่วมกันระหว่างบุคลากรในองค์กร และเป็นการสร้างแรงกระตุ้นให้ประชาชนในท้องถิ่นร่วมภาคภูมิใจและอยากมีส่วนร่วมในการพัฒนาเมืองสู่ความยั่งยืนต่อไปในอนาคตข้างหน้า”
โครงการ “ปลุกเมืองให้โลกเปลี่ยน” หรือ Earth Hour City Challenge” จัดขึ้นมาเป็นปีที่ 4 โดย WWF หรือกองทุนสัตว์ป่าโลก ได้เชิญชวนให้เมืองต่างๆ รอบโลก เข้าร่วมในการสร้างความยั่งยืนและช่วยกันประหยัดพลังงาน โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้พิจารณามาตรการต่างๆ รวมถึงพันธสัญญาของเมืองจากรายงานที่แต่ละเมืองจัดทำขึ้น เพื่อคัดเลือกเมืองต้นแบบของแต่ละประเทศสำหรับรางวัล “National Earth Hour Capital” และเป็นตัวแทนเพื่อแข่งขันระดับโลกกับรางวัล “Global Earth Hour Capital” ต่อไป
โครงการ “ปลุกเมืองให้โลกเปลี่ยน” หรือ Earth Hour City Challenge” มีวัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนมาตรการต่างๆ และการสนับสนุนของเมืองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและระบบนิเวศของโลก เพื่อมุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืนจากการขับเคลื่อนด้วยพลังงานหมุนเวียน สำหรับโครงการฯ ของประเทศไทย ในปีนี้มีเทศบาลเข้าร่วมทั้งสิ้น 10 เทศบาล ซึ่งเทศบาลนครเชียงรายและเทศบาลเมืองทุ่งสง เป็น 2 เทศบาลที่ได้รับคัดเลือกให้เข้ารอบสุดท้าย เพื่อรับการคัดเลือกเป็นเมือง Earth Hour ของประเทศไทย หรือ “National Earth Hour Capital” ต่อไป ซึ่งผลการตัดสินออกมาแล้ว โดยเทศบาลนครเชียงรายได้เป็น National Earth Hour Capital ของประเทศไทย
เกี่ยวกับโครงการของเทศบาลนครเชียงราย เทศบาลนครเชียงรายให้พันธสัญญาว่าจะลดการปล่อยคาร์บอนระดับองค์กรในภาพรวม 15% ภายในปี 2020 โดยกิจกรรมที่ดำเนินการเพื่อเอื้อต่อการลดก๊าซเรือนกระจกในภาพรวม เช่น กิจกรรม Green Walking Street ถนนคนเดิน ที่ส่งเสริมให้แม่ค้าใช้ภาชนะที่ย่อยสลายได้ ไม่ใช้โฟม ใช้หลอด LED กิจกรรมสำรวจและอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในเมือง สำรวจต้นไม้ใหญ่ จัดทำสวนพฤกษศาสตร์ และบูรณาการเข้ากับระบบการเรียนการสอนในโรงเรียนสังกัดเทศบาล กิจกรรม Green Tram Tour ใช้รถรางท่องเที่ยวในเมืองแบบลดพลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยใช้จักรยาน หรือ Eco Bike กิจกรรมการทำไบโอดีเซลจากน้ำมันที่ใช้แล้ว นำมาใช้กับเตาเผาศพของเทศบาล นอกจากจะลดการใช้พลังงานได้แล้ว ยังลดการทิ้งน้ำมันลงท่อระบายน้ำ ช่วยแก้ปัญหาการระบายน้ำอีกด้วย กิจกรรมศูนย์ส่งเสริมเมืองต้นแบบสิ่งแวดล้อมเมืองที่ยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียน เป็นทั้งศูนย์การเรียนรู้สิ่งแวดล้อม ศึกษาด้านความหลากหลายทางวัฒนธรรม เรียนรู้ระบบนิเวศเกษตรกรรมเขตเมือง เรียนรู้ระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำ และเป็นศูนย์ประสานงานและรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติเมืองเชียงราย
สำหรับ 10 เทศบาลที่เข้าร่วมโครงการ Earth Hour City Challenge 2016 ของประเทศไทย ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์เมืองให้ไปสู่เมืองยั่งยืน ได้แก่ เทศบาลนครเชียงราย จ.เชียงราย, เทศบาลนครขอนแก่น จ.ขอนแก่น, เทศบาลนครภูเก็ต จ.ภูเก็ต, เทศบาลเมืองทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช, เทศบาลเมืองยโสธร จ.ยโสธร, เทศบาลเมืองพนัสนิคม จ.ชลบุรี, เทศบาลตำบลพนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา, เทศบาลตำบลปง จ.พะเยา, เทศบาลตำบลห้วยข้าวก่ำ จ.พะเยา และเทศบาลตำบลโคกกรวด จ.นครราชสีมา